สวัสดีสมาชิกจันท์จิ๊ดดทุกท่าน กลับมาพบกันอีกแล้วกับการรีวิวสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามของจันทบุรี หลังจากที่เรารีวิวสถานที่ต่างๆที่ผ่านมาไปแล้วนั้น ทำให้เราเห็นความเป็นธรรมชาติที่สวยสดงดงามของจันทบุรี ที่น่าเที่ยวชมและอีกหลายสถานที่ สถานที่ท่องเที่ยวที่จันทร์จื๊ดจะมารีวิวในครั้งนี้ พูดเลยได้ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สมาชิกจะได้ทั้งกราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์และสัมผัสกับสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่กล่าวขาน ถึงความเป็นมาของอำเภอแหลมสิงห์ ซึ่งมีความสวยงาม และบรรยากาศที่สวยงามที่สุด ที่ทุกท่านไม่เคยพบเห็นมาก่อน สถานที่ท่องเที่ยวที่เราจะมารีวิวกันวันนี้คือ จุดชมวิวแหลมสิงห์ นั่นเองครับ
บริเวณจุดชมวิวแหลมสิงห์นี้นะครับ ห่างจากสะพานแหลมสิงห์เพียง 800 เมตร ซึ่งการเดินทางจากสะพานแหลมสิงห์ จะเลี้ยวซ้ายนะครับ ตรงมาเรื่อยๆ จะเจอทางเลี้ยวไปยังร้านอาหารครัวเสม็ดแดง ให้เลี้ยวซ้าย และตรงมาเรื่อยๆ จะถึงศาลกรมหลวงชุมพรครับ จุดชมวิวนี้พูดได้ว่าแต่ละสถานที่ ที่เดินผ่านมีแต่บรรยากาศสวยงาม แต่ก่อนที่เราจะขึ้นจุดชมวิว จันท์จี๊ดดอยากให้ทุกท่านแวะสักการะ กรมหลวงชุมพรฯ ก่อนนะครับ เพื่อความเป็นสิริมงคล ซึ่งศาลกรมหลวงชุมพรฯ เป็นจุดแรกที่เรามาถึง ซึ่งจะได้ทั้งการกราบสักการะแล้ว เมื่ออยู่บนพระตำหนัก แล้วมองออกไปยังได้เห็นภาพบริเวณกว้างของสะพานแหลมสิงห์และชายหาดแหลมสิงห์อีกด้วยครับ
เมื่อเราสักการะกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์เสร็จเรียบร้อยแล้ว เราก็จะเดินทางไปยังจุดชมวิว ซึ่งจะมีป้ายบอกทางเป็นระยะๆ โดยจุดชมวิวนั้นจะต้องเดินเท้าขึ้นไปทางประภาคารแหลมสิงห์มีระยะประมาณ 400 เมตรเราก็จะถึงจุดชมวิวนั่นเองครับ
การเดินเท้าก็เดินมาเรื่อยๆ ด่านแรกที่เราจะเจอนั่นก็คือ สะพานแขวนเล็กๆ ชื่อสะพานว่า สะพานดั่งดวงหฤทัย เป็นสะพานสีฟ้าๆ ให้เราได้เดินข้ามไปยังอีกฝั่งนึงครับ
หลังจากที่เราเดินเท้าจากพระตำหนักกรมหลวงชุมพรฯ มาสักพัก ก็จะต้องเดินขึ้นเนินเขา ก็จะอาจเหนื่อยหน่อยครับ พกน้ำมาดื่มระหว่างทางก็ดีครับ เดินไปตามขั้นบันไดไปเรื่อยๆครับ ด้านซ้านด้านขวาก็จะมีต้นไม้เล็กใหญ่ปะปนกันไป พร้อมป้ายบอกชื่อชนิดต้นไม้ เป็นการเดินศึกษาธรรมชาติไปในตัวด้วยครับ
เมื่อเดินขึ้นมาสักพัก เราจะพบกับจุดชมวิวจุดแรกที่มีชื่อว่า แหลมสิบญวน ให้เราเดินเลี้ยวซ้ายไปตามไป และเดินตรงไปอีกนิดนึง ก็จะเห็นจุดชมวิวจุดแรกครับ โดยจุดชมวิวจุดนี้ทำให้เราเห็นภาพโดยรวมของบริเวณปากแม่น้ำจันทบุรี และสามารถมองเห็นสะพานแหลมสิงห์ได้อีกด้วยครับ
แต่จุดนี้ยังไม่ใช่จุดที่เราจะมารีวิวกันในวันนี้ จากนั้นเราจะเดินต่ออีกประมาณ 200 เมตรเราจะพบกับประภาคารแหลมสิงห์ หลายคนอาจสงสัยว่ามันคืออะไร ประภาคารประกอบด้วยคำว่า ประภา แปลว่า แสงสว่าง และคำว่า อาคาร นำมารวมกันจึงแปลว่า เรือนไฟ ส่วนชาวบ้านจะเรียกกันว่า กระโจมไฟ ครับ ประภาคารเปรียบเสมือนดวงประทวีปแห่งท้องทะเล ซึ่งมีความสำคัญต่อการนำเรือเข้าร่องน้ำเพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อการการเดินเรือนั่นเองครับ
และจากจุดนี้ไปเพียง 10 เมตรเท่านั้นเราจะพบกับจุดหมายปลายทางของเรา นั่นก็คือจุดชมวิวแหลมสิงห์ที่สวยที่สุด และตำนานที่กล่าวถึงความเป็นมาของอำเภอแหลมสิงห์นั่นก็คือ สิงห์โตหินหรือสิงห์หมอบ ที่หันหน้าออกสู่ทะเล
จากจุดนี้ทำให้เราได้เห็นภาพทะเลบริเวณกว้างสุดลูกหูลูกตา บรรยากาศดีอย่าบอกใครเลยครับ มองออกไปแล้วสูดหายใจลึกๆครับ สดชื่นที่สุดเลย
และเรายังสามารถมองเห็นเกาะหลายเกาะเช่น เกาะจุฬา เกาะนมสาว เกาะเปริด และสามารถมองเห็นถึงเกาะช้าง จังหวัดตราดได้เลยทีเดียวครับ ถ้าหากใครมาช่วงเย็นๆ ใกล้พระอาทิตย์ตกดิน ก็จะเห็นพระอาทิตย์ดวงใหญ่ๆ กำลังลับขอบฟ้า ที่เป็นทะเลอันกว้างใหญ่ ภาพบรรยากาศนี้ สวยงามมากเลยทีเดียวครับ
จากภาพนี้จะมองเห็นเกาะนางรำ เกาะเปริด เกาะกวาง แหลมงอบ และเกาะช้าง
อีกฝั่งนึงเราก็จะสามารถมองเห็นปากแม่น้ำจันทบุรี สะพานแหลมสิงห์อย่างชัดเจนครับ
อยากให้ทุกท่านลองมาสัมผัสบรรยากาศครับ อาจจะเหนื่อยตอนเดินขึ้นนิดหน่อย แต่ถึงแล้ว คุ้มครับ สวยงามมากจริงๆ สำหรับระยะทางการเดินทางจาก อ.เมือง – จุดชมวิว ใช้ระยะทาง 31 กิโลเมตร แต่เราจะต้องเดินเท้าจาก พระตำหนักกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ต่อไปอีกประมาณ 410 เมตรก็จะถึงจุดชมวิว ใช้ระยะเวลาในการเดินเท้าประมาณ 15 นาทีเท่านั้นเอง เราก็จะพบกับจุดที่สูงที่สุด สวยที่สุดของ อำเภอแหลมสิงห์ครับ
สรุปแล้วนะครับ สถานที่ท่องเที่ยวนี้ก็เป็นอีกสถานที่ ที่ชาวจันท์จี๊ดดที่ชอบธรรมชาติ ชอบทะเล และชอบถ่ายรูปไม่ควรพลาดนะครับ สวยงามจริงๆ ยิ่งช่วงพระอาทิตย์ใกล้ตกดินยิ่งสวยครับ นี่แหละครับจันทบุรีของเรา ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวใกล้ๆอีกมากมายที่รอให้สมาชิกทุกท่านมาสัมผัสด้วยตนเอง ขอให้ทุกท่านเดินทางปลอดภัยและมีความสุขกับการท่องเที่ยวนะครับ ลองมาเที่ยวเมืองจันท์กันดูครับ แล้วคุณจะรู้ว่าจันทบุรีจี๊ดดแค่ไหน